ลงประกาศได้ไม่จำกัด เว็บลงโฆษณาฟรี ประกาศขายสินค้าออนไลน์

หมวดหมู่ทั่วไป => ซื้อ-ขายออนไลน์ โปรโมทสินค้าฟรี ซื้อ ขาย เช่า บริการ ลด แลก แจก แถม แห่งใหม่ ลงประกาศได้ไม่จำกัด => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 17 ธันวาคม 2023, 01:05:40 น.

หัวข้อ: ดูแลสุขภาพ: รู้จักโรค "จอตาบวมน้ำ" แค่เครียดก็เป็นได้
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 17 ธันวาคม 2023, 01:05:40 น.
โรคจอตาบวมน้ำ เป็นโรคตาที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค อาการที่สังเกตได้ คือ การมองเห็นวงดำกลางตาเวลามอง หรือมองเห็นภาพเบี้ยว

โรคจอตาบวมน้ำ คืออะไร

โรคทางตานอกจากสาเหตุจากเชื้อโรครอบตัวเราแล้ว อาจเกิดจากภาวะผิดปกติของร่างกายได้เช่นกัน เช่น โรคจอตาบวมน้ำที่ไม่ได้มีสาเหตุการเกิดจากเชื้อโรค จะพบได้ในผู้ที่มีช่วงอายุ 25-55 ปี เพศชายมากกว่าเพศหญิง และในกลุ่มผู้ที่จริงจังกับชีวิตและเครียดง่าย การใช้ยารักษาโรคบางชนิด โดยเฉพาะยากลุ่มสเตอรอยด์
สาเหตุของโรคจอตาบวมน้ำ


โรคจอตาบวมน้ำ มาจากการทำงานผิดปกติของเซลล์ในจอประสาทตาทำให้มีการรั่วของสารน้ำเข้ามาในชั้นใต้ต่อจอตา จึงเกิดการบวมน้ำขึ้น สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากภาวะความเครียด กลุ่มผู้มีบุคลิกภาพจริงจังกับชีวิตค่อนข้างเครียด ( Type A personality) ซึ่งนอกจากความเครียดแล้ว ยาบางชนิดเช่น ยารักษาผู้ป่วยทางจิตเวช ยาสเตอรอยด์ รวมทั้งยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อีก เช่น การสูบบุหรี่


อาการของโรคจอตาบวมน้ำ

อาการของโรคจอตาบวมน้ำว่า ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการ ดังนี้

    มองเห็นวงดำบริเวณกลางตาเวลามอง หรืออ่านหนังสือ
    บางรายเห็นเป็นภาพเบี้ยว


วิธีรักษาโรคจอตาบวมน้ำ

แนวทางการรักษาคือควรควบคุมปัจจัยเสี่ยง เช่น

    การใช้ยาสเตอรอยด์
    พยายามลดหลีกเลี่ยงความเครียด
    ในกรณีที่ผู้ป่วยบางรายที่มีพฤติการณ์สูบบุหรี่ควรลดสูบบุหรี่

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ 80-90 % จะสามารถกลับมามองเห็นได้ปกติ ภายใต้การดูแลรักษาของจักษุแพทย์


6 สัญญาณอันตราย “กินยา” มากเกินไปจน “ตับพัง”

ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ต้องกินยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุม หรือรักษาโรคอยู่เป็นประจำ และเป็นที่ทราบกันดีกว่าการกินยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ อาจส่งผลเสียต่อตับได้ หากคุณเองก็เป็นคนหนึ่งที่กินยาปฏิชีวนะเป็นประจำ ลองสังเกตตัวเองดูว่าเสี่ยงตับถูกทำลายหรือไม่

สัญญาณอันตราย “กินยา” มากเกินไปจน “ตับพัง”

    อ่อนเพลีย

    เบื่ออาหาร

    ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ

    ตาเหลือง

    ท้องโต

    มีจ้ำเลือดในส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย


ตัวอย่างยาที่กินแล้วอาจทำให้ตับทำงานผิดปกติ

    ยาลดไขมันในเลือด

    ยาแก้ปวดอักเสบของข้อ และกล้ามเนื้อ

    ยารักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย / ไวรัส / เชื้อรา

    ยารักษาวัณโรค

    ยากันชัก

    ยากดภูมิคุ้มกัน (รักษาโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง หรือโรคข้ออักเสบ)

    ฮอร์โมนเพศ


วิธีกินยาปฏิชีวนะอย่างปลอดภัย ไม่เสี่ยงโรคตับ

ในผู้ป่วยหลายรายที่จำเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน และกังวลว่าจะส่งผลเสียต่อตับ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุด หรือเปลี่ยนยากินเอง การหยุดยา หรือเปลี่ยนยากินเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจส่งผลให้โรค หรืออาการที่เป็นอยู่กลับมาแย่กว่าเดิม และยังเสี่ยงดื้อยาอีกด้วย นอกจากนี้ควรติดตาอาการกับแพทย์ประจำตัวอย่างสม่ำเสมออีกด้วย


ดูแลสุขภาพ: รู้จักโรค "จอตาบวมน้ำ" แค่เครียดก็เป็นได้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/ (https://www.healthyhitech.net/)