การมีบ้านเป็นของตัวเอง ถือเป็นความฝันของใครหลายคน เพราะบ้านเป็นเหมือนเป้าหมายสูงสุดที่จะทำให้ชีวิตการเป็นอยู่ของเรานั้นดีขึ้น แต่การสร้างบ้านแต่ละหลังได้นั้นต้องแลกมากับภาระค่าใช้จ่ายที่มหาศาล จนทำให้ใครบางคนต้องพับเก็บความฝันที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองนี้ไป!
เพราะเหตุนี้เห็นถึงปัญหา และอยากสานต่อความฝันของทุกคนให้เป็นจริง เราเลยจะพาทุกคนมาดูวิธีที่จะช่วยทำให้ทุกคนมีบ้านในฝันด้วยการ รับสร้างบ้าน แบบบผ่อนได้ ซึ่งวิธีนี้จะน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน มาติดตามรับชมกันได้เลย
ทำความรู้จัก รับสร้างบ้าน แบบผ่อนได้ คืออะไร?
เชื่อว่ามีหลายคนที่พอลองอ่านดูคร่าว ๆ แล้ว มีความสงสัยว่าการรับสร้างบ้านแบบผ่อนได้นั้นคืออะไร? แตกต่างจากการกู้เงินสร้างบ้านหรือไม่? คำตอบ คือ ไม่ได้มีความแตกต่างกันอย่างที่หลายคนคิด เพราะการรับสร้างบ้านแบบผ่อนได้ และการกู้เงินสร้างบ้านนั้นคือวิธีการเดียวกัน ที่จะช่วยให้คุณมีบ้านในฝันเป็นของตัวเอง
โดยจะเป็นการขอเงินทุนในการสร้างบ้านกับทางสถาบันการเงิน และทำการผ่อนชำระตามเงื่อนไขของทางสถาบันการเงินนั้น ๆ แต่การรับสร้างแบบผ่อนได้กับการกู้สินเชื่อซื้อบ้าน หรือที่อยู่อาศัยนั้นจะมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของวิธีการกู้สินเชื่อ ขั้นตอนการขอสินเชื่อต่าง ๆ และการผ่อนชำระ ซึ่งถ้าคุณมีความต้องการแบบไหนควรศึกษารายละเอียด และข้อมูลให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดตามมาในภายหลัง
รับสร้างบ้าน แบบผ่อนได้ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
1. วางแผนสร้างบ้านด้วยการสำรวจตัวเอง และที่ดินให้เรียบร้อย
การจะสร้างบ้านเป็นของตัวเอง หรือไม่ว่าจะกระทำการใด ๆ ก็ตามแต่ สิ่งสำคัญอย่างแรกที่จะทำให้ทุกอย่างราบรื่นได้นั้น คือ การวางแผนสร้างบ้าน รวมถึงสำรวจความพร้อมของตัวเอง และสำรวจที่ดินในการสร้างบ้านให้เรียบร้อย ซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามนี้
- การสำรวจความพร้อมของตัวเองก่อนกู้ขอสินเชื่อสร้างบ้าน
ก่อนตัดสินใจกู้ขอสินเชื่อสร้างบ้านมีสิ่งแรกที่ควรทำ คือ การสำรวจความพร้อมของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น การสำรวจทางการเงินของตัวเอง ทั้งรายรับ รายจ่าย และภาระหนี้สินในแต่ละเดือน
โดยแนะนำให้คุณคำนวณค่าใช้จ่ายให้ละเอียดก่อนตัดสินใจกู้ขอสินเชื่อสร้างบ้าน เพื่อที่คุณจะได้ทราบถึงสภาพคล่องทางการเงินของคุณเอง ว่าเหมาะแก่การขอสินเชื่อสร้างบ้านอยู่ที่จำนวนเท่าไหร่? และสามารถผ่อนชำระได้เดือนละเท่าไหร่?
- การสำรวจที่ดินก่อนกู้ขอสินเชื่อสร้างบ้าน
เมื่อทำการคำนวณภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน และกำลังในการผ่อนชำระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อมา คือ การสำรวจที่ดินก่อนกู้ขอสินเชื่อสร้างบ้าน ว่าทำเลที่ตั้งของที่ดินผืนนี้มีการเดินทางที่สะดวกสบาย และมีสภาพแวดล้อมที่ดี ราคาทำเลไม่สูงมากจนเกินไป
เพราะยิ่งทำเลของที่ดินผืนที่จะขอสินเชื่อสร้างบ้านมีความสะดวกสบาย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน ยิ่งทำให้มูลค่าที่ดิน และการก่อสร้างมีมูลค่าที่สูงมากขึ้นเท่านั้น
2. วางแผนทางการเงินให้ดี
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะทำการขอสินเชื่อสร้างบ้าน แบบผ่อนชำระ ลำดับต่อมาหลังจากที่คุณวางแผนสร้างบ้าน และสำรวจตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือ การวางแผนทางการเงินให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนชำระ หรือการลดหย่อนภาษีต่าง ๆ โดยวิธีการวางแผนมีดังนี้
- วางแผนการรับสร้างบ้าน แบบผ่อนชำระ
รู้หรือไม่? ว่าการที่คุณทำการสำรวจภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ส่งผลให้คุณรู้ว่ามีความสามารถในการผ่อนชำระอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งคุณอาจลองทดสอบผ่อนชำระในจำนวนเงินที่คุณต้องการก่อนได้ว่าคุณมีกำลังผ่อนชำระพอหรือไม่? โดยเริ่มจากการออมเงินในแต่ละเดือนเท่ากับจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระ
อาทิเช่น คุณขอสินเชื่อสร้างบ้านได้จำนวนทั้งหมด 1,000,000 บาท ผ่อนชำระทั้งหมด 72 งวด งวดละ 12,888 บาท/เดือน ให้คุณทดลองเก็บเงินออม 12,888-13,000 บาททุกเดือน เป็นเวลา 1 ปี เพื่อดูว่าคุณสามารถทำได้หรือไม่? ทดลองออมดูแล้วส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือสภาวะทางการเงินหรือเปล่า? หากทำแบบนี้แล้วไม่ส่งผลกระทบใด ๆ นั้นก็เท่ากับว่าคุณมีความสามารถในการผ่อนชำระ
- กฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้องกับการขอกู้สินเชื่อสร้างบ้าน
นอกจากการวางแผนการผ่อนชำระที่คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องรู้ และไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด คือ กฎหมายภาษี และอัตราดอกเบี้ยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขอกู้สินเชื่อสร้างบ้าน
โดยกฎหมายระบุเอาไว้ว่า ผู้ใดที่ทำการขอกู้สินเชื่อสร้างบ้าน หรือที่อยู่อาศัย สามารถนำดอกเบี้ยเงินกู้ไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง และนำไปลดหย่อนได้สูงสุดปีละไม่เกิน 100,000 บาท แต่ถ้าในกรณีที่มีคนกู้ร่วมสร้างบ้านด้วย ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัว หรือคู่สมรส ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เหล่านี้ด้วย แต่จะต้องเฉลี่ยตามจำนวนคนที่ร่วมกู้ให้เท่ากัน
3. เลือกแบบบ้านให้ตอบโจทย์ และตรงตามความต้องการ
หลังจากที่วางแผนต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาของการเตรียมตัวขอสินเชื่อรับสร้างบ้าน แบบผ่อน คือการเลือกแบบบ้านให้ตอบโจทย์ และตรงตามความต้องการ ซึ่งปัจจุบันแบบบ้านนั้นมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบบ้านฟรีที่สามารถหาได้ตามอินเทอร์เน็ต แบบบ้านสำเร็จรูป หรือแบบบ้านที่ออกแบบใหม่ ซึ่งคุณสามารถเลือกให้เหมาะกับความต้องการของคุณได้
แต่ถ้าให้แนะนำจริง ๆ การเลือกแบบบ้านที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด จะเป็นการออกแบบที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด เพราะคุณสามารถแจ้งกับสถาปนิกถึงความต้องการ ฟังก์ชัน รูปแบบ หรือความพิเศษต่าง ๆ ที่ต้องการได้ ซึ่งจะต่างจากแบบบ้านสำเร็จรูป และแบบบ้านฟรี ที่บางแบบก็ไม่มีฟังก์ชันที่คุณต้องการ ดังนั้น การจะสร้างบ้านต้องคำนึงถึงความชอบ และความต้องการเป็นหลัก
4. เลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่ดี มีคุณภาพ ไว้ใจได้
การจะสร้างบ้านออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด คือ การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่ดี มีคุณภาพ และมีบริการครบครัน อย่าง บริษัทรับสร้างบ้าน Royal House ที่มีบริการครบครัน ตั้งแต่การออกแบบสร้างบ้าน การติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขออนุญาตสร้างบ้าน ไปจนถึงบริการรับประกันหลังสร้างบ้านเสร็จ
นอกจากนี้ บริษัทรับสร้างบ้านยังเป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่เชื่อถือได้ ไม่ทิ้งงาน มีประสบการณ์ยาวนาน และมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบคอยให้คำปรึกษา รวมถึงการสร้างบ้านที่คุณมั่นใจเลยว่าบ้านในฝันของคุณตรงตามความต้องการ และมีคุณภาพอย่างแน่นอน
5. เตรียมเอกสารสำหรับขอสินเชื่อสร้างบ้าน
เมื่อเตรียมความพร้อมในด้านการวางแผนการเงิน การเลือกแบบบ้าน และบริษัทรับสร้างบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาคือการเตรียมเอกสารสำหรับยื่นขอสินเชื่อสร้างบ้าน และที่อยู่อาศัย โดยต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- เอกสารส่วนบุคคล
สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรอื่น ๆ เป็นต้น
- เอกสารแสดงรายได้ กรณีพนักงานประจำ หรือผู้มีรายได้
หนังสือรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือนย้อนหลัง, Statement เงินเดือนย้อนหลัง
- เอกสารแสดงรายได้ กรณีเจ้าของกิจการ
สำเนาทะเบียนการค้า, หนังสือรับรองการจดทะเบียนร้านค้า, สำเนารายชื่อผู้ถือหุ้น, รายการเดินบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน, หลักฐานการเสียภาษี และรูปถ่ายกิจการพร้อมแผนที่ตั้งบริษัทโดยสังเขป
- เอกสารแสดงรายได้ กรณีประกอบอาชีพอิสระ
รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน, ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ อาทิ ทนาย สถาปนิก หรือวิศวกร เป็นต้น
- เอกสารแบบบ้าน
เมื่อต้องการขอสินเชื่อสร้างบ้าน จำเป็นจะต้องยื่นเอกสารแบบบ้านให้กับสถาบันการเงินด้วย เพื่อใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ เนื่องจากสถาบันการเงินไม่สามารถประเมินสินเชื่อให้ได้ การยื่นเอกสารแบบบ้านจะช่วยให้สถาบันการเงินประเมินราคาได้อย่างชัดเจน และถูกต้อง
- เอกสารสัญญาว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน
การจ้างบริษัทรับสร้างบ้านเป็นอีกหนึ่งในการประเมินมูลค่าสินเชื่อในการสร้างบ้าน โดยสัญญาว่าจ้างจะเป็นตัวช่วยยืนยันว่าสถาบันการเงินควรปล่อยงบประมาณการกู้ยืมอยู่ที่เท่าไหร่
- เอกสารโฉนดที่ดิน
ถ้าหากคุณจะขอสินเชื่อสร้างบ้าน คุณต้องไม่ลืมเตรียมเอกสารโฉนดที่ดินควบคู่ไปด้วย เพราะเอกสารโฉนดที่ดินจะช่วยให้สถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อเงินสร้างบ้านได้ง่ายมากขึ้น
- เอกสารใบอนุญาตการก่อสร้าง
ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างใดก็ตามแต่ ล้วนจะต้องมีเอกสารใบอนุญาตการก่อสร้าง ซึ่งเอกสารนี้จะเป็นหลักประกันยืนยันว่าการก่อสร้างบ้านของผู้กู้นั้นจะไม่มีปัญหาใด ๆ ตามมาภายหลัง และการก่อสร้างนั้นไม่มีผลกระทบต่อผู้กู้
บริษัทรับสร้างบ้าน แบบผ่อนได้ ทางเลือกใหม่สำหรับคนอยากมีบ้าน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://luxuryhomesdesigns.com/