ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปัจจุบัน ผลิตออกมาหลากหลายรูปแบบ หลายขนาด แต่การจะเลือกซื้อยังไงให้ได้ปริมาณที่พอเหมาะและขนาดบรรจุเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย นอกจากหน่วยงานภาครัฐช่วยควบคุมและตรวจสอบ มาตรฐานการผลิตและความน่าเชื่อถือแบรนด์สินค้าเองแล้ว ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ดังนี้
1. แนะนำให้ซื้อในปริมาณที่พอดีกับระยะเวลาที่จำเป็นต้องรับประทานเพื่อเสริมสารอาหารนั้น หรือซื้อให้เพียงพอก่อนวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่กำลังตัดสินใจซื้อเพื่อลดปัญหาการรับประทานไม่ทัน เสื่อมคุณภาพ และได้รับประโยชน์น้อยลงหรือเป็นอันตรายได้
2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควรเก็บในที่ที่ไม่ถูกแสงแดด หรือร้อนจัด เช่น ริมหน้าต่าง ในรถยนต์ที่จอดกลางแจ้ง เนื่องจากวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดไม่ทนต่อแสงแดดหรือความร้อนและอาจจะทำให้เสื่อมสภาพ
3. วิตามินและแร่ธาตุ เมื่อถูกอากาศจากภายนอกอาจส่งผลทำให้วิตามินและแร่ธาตุเสื่อมสภาพได้ เมื่อเปิดฝารับประทานแล้วควรรีบปิดให้สนิท สำหรับผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์มาในปริมาณมากในกระปุกใหญ่ๆ รับประทานไปเรื่อยๆ จำนวนเม็ดลดลงจะทำให้เกิดอากาศในกระปุกใหญ่มากกว่าในขนาดกระปุกเล็กๆ แนะนำให้เทแบ่งใส่ซองภาชนะบรรจุขนาดเล็กสีชา แล้วม้วนพันให้เล็กลงอีก เพื่อป้องกันการสัมผัสอากาศและแสงแดด
4. ความชื้น มีผลให้วิตามินและแร่ธาตุเสื่อมสภาพเช่นกัน แต่หลายๆผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะบรรจุ “ซองกันชื้น” หรือ ซิลิกาเจล (silicon dioxide) สังเคราะห์มาจากโซเดียมซิลิเกต (Sodium silicate) มีลักษณะเม็ดเล็กๆสีใสคล้ายแก้ว คุณสมบัติพิเศษในการดูดซับความชื้นสูง 800 ตารางเมตรต่อซิลิกาเจล 1 กรัม ไม่แนะนำให้นำซองกันชื้นนี้ออกจากกระปุกผลิตภัณฑ์ เพื่อป้องกันความชื้นไม่ให้วิตามินและแร่ธาตุเสื่อมสภาพเร็ว
กล่าวโดยสรุป ผู้บริโภคควรพิจารณาคุณภาพของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นเบื้องต้นก่อน เพื่อความปลอดภัยในการรับประทาน และควรศึกษาขนาดการรับประทานที่เหมาะสมจากฉลากผลิตภัณฑ์ แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ หรือจากเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ และปฏิตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อสุขภาพที่ดีและเห็นผลที่ดีที่สุด
วิธีเก็บรักษาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กระชายสกัด อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/