ไวรัสตับอักเสบบี ตัวการสำคัญของตับแข็ง มะเร็งตับไวรัสตับอักเสบบี เกิดจากอะไร?
คือ การอักเสบของเซลล์ตับที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้ผู้ได้รับเชื้อมีแนวโน้มเกิด ภาวะตับอักสบเรื้อรัง ตับแข็ง และอาจกลายเป็นมะเร็งตับในที่สุด ซึ่งพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งตับส่วนใหญ่ 90% มีประวัติเป็นโรคไวรัสตับอักเสบมาก่อน!!!
ไวรัสตับอักเสบ มีอาการอย่างไร?
เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ได้รับเชื้อจะไม่รู้ตัว ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการที่สังเกตได้ ดังนี้
มีไข้ต่ำๆ
อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย
เบื่ออาหาร
คลื่นไส้ อาเจียน
ตาเหลือง และตัวเหลือง
จุกแน่นใต้ชายโครงขวาเนื่องจากตับโต
ไวรัสตับอักเสบบี ติดต่อทางไหน?
การถ่ายทอดจากแม่สู่ทารกในครรภ์ (หากแม่มีเชื้อ ทารกมีโอกาสได้รับเชื้อสูงถึง 90%)
การใช้เข็มร่วมกันกับผู้อื่น ทั้งการรักษาพยาบาล การใช้เข็มในสารเสพติด หรือการโดนเข็มตำ
การสัมผัสเลือดหรือสารคัดหลั่ง โดยผ่านเข้าทางบาดแผล
การใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้อื่นโดยมีสารคัดหลั่งปะปน เช่น แปรงสีฟัน มีดโกน ที่ตัดเล็บ
การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อโดยไม่ป้องกัน / ไม่สวมถุงยางอนามัย
โรคไวรัสตับอักเสบบีรักษาหายไหม?
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการแบบเฉียบพลัน มีโอกาสรักษาหายขาดได้ แต่ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการตับอักเสบเรื้อรัง และยังคงตรวจพบเชื้ออยู่ อาจนำไปสู่ภาวะตับแข็ง หรืออาจเป็นมะเร็งตับได้ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนในการรักษาต่อไป
จะทราบได้อย่างไรว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี?
ตรวจ HBsAG (แอนติเจนไวรัสตับอักเสบบี) บ่งบอกถึงการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
ตรวจ HBeAG บ่งบอกถึงโรคอยู่ในระยะการแบ่งตัวของไวรัสตับอักเสบบี (Viral replication)
ตรวจ HBV-DNA บ่งบอกถึงปริมาณเชื้อไวรัสตับอักเสบบี)
ตรวจ Anti HBc บ่งบอกถึงภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อไวรัสตับอักเสบบี บอกถึงการเคยติดเชื้อไวรัสบี
ตรวจ Anti HBs บ่งบอกถึงภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
ป้องกันตนเองจากไวรัสตับอักเสบบี
ตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรตรวจเช็คตับปีละ 1 ครั้ง และตรวจคัดกรองมะเร็งตับเป็นระยะ
ควรฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสตับอักเสบ หากร่างกายยังไม่มีภูมิคุ้มกัน
ไม่ควรรับประทานยาพร่ำเพรื่อติดต่อกันเป็นเวลานาน หากไม่ได้อยู่ในความดูแลของแพทย์
งดดื่มแอลกอฮอล์
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานโรค
มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
หลีกเลี่ยงการสัมผัสเลือดและสารคัดหลั่งของผู้ป่วย